แหล่งดำน้ำที่ดีที่สุดบนเกาะเต่า
เกาะเต่าเป็นสถานที่ยอดฮิตในการดำน้ำลึกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาหลายสิบปี
มีแหล่งดำน้ำมากกว่า 25 แห่งรอบเกาะเต่าให้นักดำน้ำเลือกตามสภาพแวดล้อมใต้น้ำ เกาะแห่งนี้เหมาะสำหรับนักดำน้ำทุกระดับ
เกาะเต่ามีทุกอย่างให้คุณเลือก ไม่ว่าจะเรียนดำน้ำลึก ฟันไดฟ์ หรือเรียนฟรีไดฟ์วิ่ง ดังนั้นมาอ่านข้อเท็จจริง 10 ข้อเกี่ยวกับแหล่งดำน้ำบนเกาะเต่ากัน
1. แหล่งดำน้ำบนเกาะเต่าสำหรับมือใหม่และมืออาชีพ
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักดำน้ำที่มีประสบการณ์หรือดำน้ำเป็นครั้งแรก คุณจะได้เจอสิ่งที่คุณกำลังมองหาบนเกาะเต่าเสมอ
เกาะเต่ามีแหล่งดำน้ำยอดนิยมกว่า 25 แห่ง ตั้งแต่อ่าวน้ำตื้นและจุดดำน้ำประดิษฐ์ไปจนถึงกองหินที่อยู่ลึกลงไป
สำหรับนักดำน้ำมือใหม่ จุดดำน้ำตื้นเหมาะกับทักษะและสร้างประสบการณ์ก่อนจะไปจุดดำน้ำขั้นสูง
สำหรับนักดำน้ำที่มีประสบการณ์และช่างภาพใต้น้ำ เกาะเต่าเหมาะกับการเรียนหลักสูตรพิเศษและหลักสูตรนักดำน้ำขั้นสูง
ความอุดมสมบูรณ์ของสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล
เกาะเต่ามีสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลมากมายให้ชมเมื่อคุณดำน้ำรอบแนวปะการังที่สวยงาม
หากคุณชอบสัตว์ทะเลขนาดเล็กเช่น ทากทะเลและกุ้งตัวเล็กหรือสัตว์น้ำขนาดใหญ่อย่างฉลามวาฬ คุณจะเจอสัตว์น้ำหลายชนิดเมื่อดำน้ำรอบเกาะเต่า
อย่าลืมกล้องบันทึกภาพความทรงจำการดำน้ำที่น่าตื่นตาตื่นใจระหว่างอยู่ที่เกาะเต่า
2. ทัศนวิสัยที่ดีในแหล่งดำน้ำ
ทัศนวิสัยในทะเลรอบเกาะเต่ามีความลึกตั้งแต่ 5-30 เมตร ขึ้นอยู่กับอากาศและเวลา
ความลึกโดยประมาณ 15 เมตรขึ้นไป เกาะเต่ามีทัศนวิสัยดีตลอดปี
เดือนมีนาคมถึงมิถุนายนเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการดำน้ำลึก
เกาะเต่าดำน้ำได้ตลอดปี ซึ่งเป็นเกาะแห่งการดำน้ำลึก
อากาศจะอุ่นสบายและไม่มีลมระหว่างเดือนมีนาคมถึงมิถุนายน
3. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของปีในการไปดำน้ำที่เกาะเต่า
ช่วงเวลานี้ของปี ทัศนวิสัยใต้น้ำที่เกาะเต่าจะอยู่ที่ความลึก 20-30 เมตร
คุณจะได้เจอฉลามวาฬในช่วงนี้ ซึ่งเป็นความฝันสูงสุดส่วนใหญ่ของนักดำน้ำ PADI Open Water
เดือนมีนาคมถึงมิถุนายนมีโอกาสสูงที่จะเจอฉลามวาฬ ช่วงเวลาอื่นก็มีพอโอกาสอยู่บ้าง
หลังมิถุนายนเกาะเต่าจะมีทัศนวิสัยที่ดีสำหรับดำน้ำลึก
ทัศนวิสัยจะต่ำลงในช่วงฤดูมรสุมหรือเมื่อมีพายุโซนร้อน
เกาะเขตร้อนในมหาสมุทร
ข้อดีของเกาะเต่าคืออยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่กว่า 70 กิโลเมตร ทำให้ฤดูมรสุมของเกาะจะแตกต่างและสั้นกว่าทางภาคใต้ทางฝั่งอันดามันมาก
โดยปกติมรสุมจะอยู่ไม่เกิน 1 เดือน พฤศจิกายนถือเป็นช่วงมรสุมของเกาะ
แม้ในฤดูมรสุม เราก็สามารถดำน้ำได้ ฝนไม่ได้ตกตลอดทั้งวันแต่ส่วนใหญ่จะตกตอนกลางคืน
ดำน้ำได้ตลอดทั้งปีบนเกาะเต่า
เกาะเต่าสามารถดำน้ำได้ตลอดปีไม่เหมือนจุดดำน้ำอื่นๆ ในไทย เนื่องจากเกาะมีขนาดเล็กและฤดูมรสุมไม่นาน
อ่าวต่างๆและจุดดำน้ำส่วนใหญ่อยู่รอบเกาะเต่า สามารถนั่งเรือไม่เกิน 30 นาทีและเรือสำหรับไปดำน้ำใช้เวลาเดินทางน้อยกว่า 1 ชั่วโมงในการเดินทางรอบเกาะ
ศูนย์ดำน้ำบนเกาะเต่าจะพาคุณไปจุดดำน้ำที่เงียบสงบ ไม่ว่าทิศทางลมหรือขนาดคลื่นจะเป็นอย่างไร บริษัทเดินเรือแค่เดินทางสลับไปมาระหว่างชายฝั่งตะวันออกกับตะวันตก
4. เกาะเต่ามีแหล่งดำน้ำกว่า 25 แห่ง
มีแหล่งดำน้ำมากกว่า 25 แห่งรอบเกาะทำให้เหมาะกับการดำน้ำมากๆ
คุณสามารถใช้ถนนเดินทางไปอีกด้านหนึ่งของเกาะซึ่งใช้เวลาน้อยกว่า 15 นาทีและขึ้นเรือดำน้ำได้จากที่นั่น
บ่อยครั้งที่เรือดำน้ำจะจอดที่ฝั่งตะวันออกหรือตะวันตกของเกาะซึ่งขึ้นอยู่กับฤดูกาลหรือพยากรณ์อากาศล่าสุด
แหล่งดำน้ำเกาะเต่ามีความหลากหลาย
อุณหภูมิน้ำทะเลรอบเกาะเต่าอยู่ระหว่าง 26 – 30 องศาเซลเซียส ช่วง 10 เดือนของปีอุณหภูมิจะสูงกว่า 28 องศาเซลเซียส
นักดำน้ำส่วนใหญ่บนเกาะเต่าไม่จำเป็นต้องสวมชุดหนักๆ มิดชิดเพราะทำให้การเคลื่อนไหวลำบาก
เวทสูทสั้น 3 มม. ทำให้อบอุ่นพอแล้วระหว่างการดำน้ำ นักดำน้ำหลายคนไม่อยากใส่ชุดดำน้ำก็สามารถใส่ rashguard และกางเกงขาสั้นหรือชุดว่ายน้ำได้
แม้ว่าแหล่งดำน้ำที่ลงไปลึก อุณหภูมิน้ำทะเลยังคงที่แม้ในระดับความลึก 30 – 40 เมตร
ที่ความลึก 30 เมตรขึ้นไป อุณหภูมิน้ำทะเลจะเท่าๆ กับผิวน้ำ
อุณหภูมิของทะเลรอบๆเกาะเต่า เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคน รวมทั้งนักดำน้ำลึกและนักดำน้ำตื้น หรือนักท่องเที่ยวที่ต้องการว่ายน้ำพักผ่อนตามชายหาดที่สวยงาม
5. การฝึกดำน้ำลึกที่จุดดำน้ำรอบเกาะเต่า
เมื่อคุณเรียนดำน้ำครั้งแรก คุณอาจกังวลเล็กน้อยเพราะได้ลองทำอะไรน่าตื่นเต้น
มีสิ่งใหม่ๆ ให้คุณได้เรียนรู้ระหว่างการฝึกดำน้ำเพื่อให้คุณจบหลักสูตรในสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุด
ชุมชนของเกาะเต่าดำน้ำลึกทุกวัน ตลอดทั้งปี คุณมั่นใจได้ว่าการฝึกอบรมที่นี่มีมาตรฐานสูงสุด
มีจุดดำน้ำหลายที่เหมาะกับการฝึกนักดำน้ำลึกทุกระดับและนั่งเรือประมาณ 30 นาทีจากท่าเรือ
มีอ่าวน้ำตื้นที่เหมาะกับการฝึกดำน้ำ PADI Open Water เพราะมีปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลมากมายให้ชม
แหล่งดำน้ำที่ดีที่สุดสำหรับหลักสูตร PADI Open Water
มีพื้นที่ปลอดภัยในจุดดำน้ำเพื่อฝึกทักษะหลัก เช่น การลอยตัว และการว่ายน้ำโดยไม่รบกวนแนวปะการังตามธรรมชาติและสภาพแวดล้อมใต้น้ำ
Black Turtle Dive มีการฝึกอบรมการลอยตัวให้ลูกค้าทุกคนเพื่อให้นักดำน้ำลอยตัวได้อย่างมั่นใจโดยไม่ต้องสัมผัสก้นทะเลหรือกระทบกับสิ่งมีชีวิตในน้ำ
หลายปีที่ผ่านมา ศูนย์ดำน้ำต่างๆ พยายามอย่างมากที่จะร่วมกับ ‘กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง’ ในการติดตั้งทุ่นผูกเรือรอบจุดดำน้ำ
เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการจอดเรือที่จุดดำน้ำ เพื่อให้แน่ใจว่าจะรบกวนสิ่งมีชีวิตในทะเลน้อยที่สุด
ทุ่นผูกเรือไม่เพียงเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาสภาพแวดล้อมใต้น้ำแต่เป็นจุดลงสู่ผิวน้ำที่เหมาะกับการฝึกนักดำน้ำลึกด้วย
6. การอนุรักษ์ทางทะเลที่จุดดำน้ำรอบเกาะเต่า
มีองค์กรและโครงการไม่แสวงหาผลกำไรหลายแห่งที่มีเป้าหมายรักษาสิ่งแวดล้อมใต้น้ำตามธรรมชาติบนเกาะเต่า
ผู้เชี่ยวชาญด้านการดำน้ำทุกคนไม่ต้องการอะไรไปกว่าที่อยู่อาศัยใต้น้ำที่สวยงามรอบเกาะเต่าให้นักเรียนและนักดำน้ำ
ตลอดหลายปีที่ผ่านมามีการเริ่มหลายโครงการ รวมถึงการติดตั้งทุ่นผูกเรือ แนวปะการังเทียม การดำน้ำกำจัดขยะในทะเล การปลูกป่าชายเลนและโครงการอื่นๆอย่างต่อเนื่อง
แหล่งดำน้ำประดิษฐ์บนเกาะเต่า
ปัจจุบันเกาะเต่ามีแหล่งดำน้ำประดิษฐ์หลายแห่ง รวมถึงซากเรือจมเช่น เรือหลวงสัตกูดหรือ MV ทรีเดนท์และโครงสร้างประดิษฐ์ที่มีปะการังและสิ่งมีชีวิตในทะเล
แหล่งดำน้ำแนวปะการังเทียมช่วยให้นักดำน้ำได้สัมผัสประสบการณ์ใต้น้ำและช่วยลดแรงกดดันให้แหล่งดำน้ำธรรมชาติ
7. สิ่งมีชีวิตใต้ทะเลที่แหล่งดำน้ำบนเกาะเต่า
จุดดำน้ำรอบเกาะเต่ามีอะไรให้ชมอยู่ตลอด จุดดำน้ำตื้นในแนวปะการังทำหน้าที่เป็นแหล่งอนุบาลให้ปลาขนาดเล็กได้เจริญเติบโต
แต่สิ่งเหล่านี้ก็ดึงดูดนักล่ามาหาอาหาร ความสัมพันธ์และปฏิสัมพันธ์ที่น่าสนใจนี้ทำให้มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
ระหว่างการดำน้ำลึก คุณจะได้เห็นปลาเขตร้อนหลากสีและสวนปะการังที่สวยงาม ก้อนหินขนาดใหญ่และการก่อตัวของหินใต้น้ำ
แหล่งดำน้ำลึกบนเกาะเต่า
เมื่อคุณไปแหล่งดำน้ำที่ค่อนข้างลึกเช่น กองหินชุมพรหรือกองหินตุ้งกู คุณจะได้เห็น บาราคูด้า ปลาเก๋ายักษ์ ปลาค้างคาวและอาจได้เห็นฉลามวาฬซึ่งอยู่ในลิสต์ของนักดำน้ำทุกคน
หากคุณสนใจสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ให้มองหาทากทะเลและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังประเภทต่างๆ เช่น หนอนตัวแบน กุ้ง ปูและม้าน้ำ
อ่านเพจสิ่งมีชีวิตในทะเลของเรา เพื่อดูว่าคุณจะเจอกับอะไรที่เกาะเต่า เรารับประกันว่าคุณจะไม่ผิดหวัง
8. แหล่งดำน้ำเกาะเต่า
แหล่งดำน้ำมากกว่า 90% อยู่ห่างจากท่าเรือหลักและใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 45 นาที
มีข้อเสนอมากมายให้เลือกเพื่อให้คุณสนุกเต็มที่กับการดำน้ำในวันหยุด
เราจัดทริปดำน้ำได้ 2 ทริปต่อวัน ทริปละ 2 ไดฟ์ เรือดำน้ำจะพาคุณกลับเข้าฝั่งเพื่อสั่งอาหารและเครื่องดื่มก่อนจะออกไปดำน้ำอีกครั้ง
ตารางเรียนดำน้ำที่เกาะเต่า
คุณไม่จำเป็นต้องออกทริปดำน้ำทั้งสองครั้ง แต่เป็นทางเลือกให้คุณแวะจุดดำน้ำหลายแห่งในช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อให้วันหยุดดำน้ำของคุณพิเศษสุด
หากคุณอยากเพิ่มทริปดำน้ำกลางคืนกับเราด้วย คุณจะดำน้ำได้ถึง 5 ครั้งต่อวัน
9. ห้ามตกปลาที่แหล่งดำน้ำรอบเกาะเต่า
ในปี 2537 ระเบียบฉบับแรกในการแบ่งเขตและการคุ้มครองทางทะเลได้มีการนำมาใช้ในพื้นที่
คำสั่งรวมถึงพื้นที่ 3 กม. รอบเกาะเต่าที่ได้รับการคุ้มครองจากการลากอวนและ ระยะทางจาก 1 กม. ถึง 5 กม. เป็นเขตพื้นที่ห้ามมีการตกปลาหน้าหาดทรายรี
ตอนนี้ทั้งเกาะเต่า มหาสมุทรและแหล่งดำน้ำที่อยู่นอกชายฝั่งอยู่ใน “เขตอนุรักษ์และคุ้มครองสิ่งแวดล้อม”
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งกับแหล่งดำน้ำเกาะเต่า
ในปี 2561 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้เพิ่มกองหินชุมพรและกองหินตุ้งไว้ในพื้นที่อนุรักษ์ ที่ไม่อนุญาตให้ทำการประมงเชิงพาณิชย์
ในวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2561 คำสั่งเลขที่ 755/2561 ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งมีผลบังคับใช้กับเกาะเต่ารวมถึงเกาะสมุยและเกาะพะงันด้วย ระบุว่า:
- ห้ามจอดเรือโดยการทิ้งสมอหรือทอดสมอบริเวณแนวปะการังในพื้นที่เกาะเต่า ในลักษณะที่ก่อให้เกิดอันตราย หรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อแนวปะการัง โดยให้จอดเรือโดยการผูกทุ่นจอดเรือในบริเวณที่มีทุ่นจอดเรือ
- ห้ามเท ทิ้ง ระบาย ของเสีย น้ำเสีย ขยะมูลฝอยลงสู่ทะเล
- ห้ามให้อาหารปลาหรือสัตว์ทะเลอื่นๆ เพื่อจุดประสงค์ในการล่อจับ ซึ่งเป็นกฏต้องห้ามเด็ดขาด
- ห้ามดำเนินกิจกรรมเดินท่องเที่ยวใต้ทะเล (Sea walker) หรือกระทำการใดๆ ที่มีผลกระทบต่อแนวปะการัง
โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อรักษาสภาพแวดล้อมใต้น้ำเพื่ออนาคต
10. ฉลามวาฬที่จุดดำน้ำเกาะเต่า
เกาะเต่ามีปลาที่ใหญ่ที่สุดในมหาสมุทรอย่างฉลามวาฬแวะมาเยี่ยมเป็นประจำ ไม่กี่ปีที่ผ่านมามีมากกว่า 100 ตัวในปีเดียวที่เจอในหมู่เกาะชุมพร
มีบางช่วงของปีที่คุณมีโอกาสเจอมากขึ้นคือเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมและเดือนตุลาคม
เจอฉลามวาฬได้ที่จุดดำน้ำรอบเกาะเต่า ทั้งจุดดำน้ำตื้นและจุดดำน้ำลึก
เราไม่ได้ให้อาหารเพื่อดึงดูดฉลามวาฬแต่ปล่อยให้พวกมันอยู่ตามธรรมชาติโดยไม่รบกวน
ไม่มีการรับประกันว่าคุณจะพบฉลามวาฬเมื่อดำน้ำที่เกาะเต่าซึ่งจะทำให้น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นเมื่อเจอ
เวลาที่ดีที่สุดในการดูฉลามวาฬบนเกาะเต่า
เรามีนักเรียนดำน้ำ Open Water หลายคนที่โชคดีได้เห็นในการดำน้ำครั้งที่ 3 หรือ 4
เมื่อคุณพบสัตว์ทะเลขนาดใหญ่เหล่านี้ อย่าลืมเว้นระยะห่างไว้เสมอ
โดยคุณต้องรักษาระยะห่างอย่างน้อย 3 เมตรจากหัวและ 5 เมตรจากหางของฉลามวาฬเมื่อพวกมันดำน้ำผ่านมา
ทำตามกฏ
มีกฎที่เข้มงวด รวมถึงห้ามแตะ ขี่ จับหรือไล่จับฉลามวาฬ ถ้าคุณใช้กล้องถ่ายรูปให้หลีกเลี่ยงการถ่ายภาพโดยใช้แฟลช
เกาะเต่ารับรองนักดำน้ำทุกคนที่หลงใหลท้องทะเล มีแหล่งดำน้ำให้เลือกหลายแห่งเพื่อสนุกกับสภาพแวดล้อมใต้น้ำที่น่ามหัศจรรย์
ความลำบากเพียงอย่างเดียวในการมาเกาะเต่าคือ ต้องตัดสิดใจเลือกแหล่งดำน้ำ – เพื่อค้นหา สำรวจและเพลิดเพลินโลกใต้ทะเล