ทำความเข้าใจเรื่องปะการังและการฟอกสีของปะการัง

การติดตามแนวปะการัง CoralWatch บนเกาะเต่า

นักดำน้ำของเราหลายคนถามว่าปะการังคืออะไรและมีไว้เพื่ออะไร

ต่อไปนี่เป็นคำถามที่นักดำน้ำทุกคนควรรู้คำตอบ เพราะเมื่อไหร่ที่คุณเยี่ยมชมทะเล จะช่วยให้คุณเข้าใจระบบนิเวศทางทะเลได้ดียิ่งขึ้น 

ผู้สนับสนุนและช่วยเหลือของมหาสมุทร

ความรู้ที่สำคัญนี้จะช่วยให้คุณมีความเข้าใจเพิ่มขึ้น เกี่ยวกับความท้าทายอันซับซ้อนนี้ ที่โลกและมนุษยชาติของเรากำลังเผชิญอยู่ในศตวรรษที่ 21

เราจะช่วยให้คุณเข้าใจว่าปะการังคืออะไร และหวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับคุณในการมีส่วนร่วม ในการช่วยเหลือท้องทะเลและเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนนี้ไปด้วยกัน.

A Closer Look at Coral
A Closer Look at Coral

ปะการังเป็นพืชหรือสัตว์?

ปะการังเป็นสัตว์ทะเลไม่มีกระดูกสันหลัง สัตว์จำพวกหนึ่งในกลุ่มแอนโธซัว Anthozoa ในกลุ่มไฟลัมไนดาเรีย cnidaria ซึ่งรวมถึงดอกไม้ทะเลและแมงกะพรุนเช่นเดียวกัน.

ตัวของปะการังแต่ละตัวจะถูกเรียกว่า โพลิปหรือเนื้อเยื่อ ซึ่งมักจะมีลำตัวเป็นทรงกระบอก ตรงปลายสุดเป็นปากและมีหนวดล้อมรอบอยู่ด้านบน ใช้สำหรับการป้องกันและทำความสะอาดเศษซากออกจากติ่งเนื้อเยื่อบริเวณรอบๆหรือเพื่อจับสัตว์ขนาดเล็กที่ลอยผ่านไปมา.

แม้ว่าจะมีโพลิปบางตัวดูเหมือนว่าอาศัยอยู่โดดเดี่ยว แต่ก็มักจะอาศัยอยู่ในบริเวณที่ประกอบด้วยติ่งเนื้อจำนวนมาก.

การสร้างแนวปะการัง

ปะการังแข็ง (scleractinians) เป็นตัวสร้างฐานของแนวปะการังที่สำคัญที่พบในมหาสมุทรเขตร้อน โพลิปจะหลั่งแคลเซียมคาร์บอเนตที่ฐานของมันออกมา และเมื่อเวลาผ่านไปแคลเซียมคาร์บอเนต จะก่อตัวเป็นโครงสร้างที่แข็งแรงเพื่อปกป้องโพลิปหลายๆชั้น.

การที่ปะการังจะมีสุขภาพดีได้นั้น พวกมันจะต้องได้รับพลังงานและสารอาหารที่จำเป็นจากสาหร่ายขนาดเล็กต่างๆ แต่เนื่องจากแหล่งน้ำเขตร้อนที่พวกมันอาศัยอยู่นั้น สาหร่ายมักจะมีสารอาหารที่น้อยเกินไป.

สาหร่ายขนาดเล็กเหล่านี้มีความสัมพันธ์แบบพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันกับปะการัง ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ทางชีวภาพแบบ Endosymbiotic คือ สัตว์หนึ่งอาศัยอยู่ภายในเนื้อเยื่อของอีกอันหนึ่ง ทั้งในเซลล์หรืออาจจะอาศัยอยู่นอกเซลล์ ซึ่งในกรณีนี้ ผู้อาศัยเป็นสาหร่ายเซลล์เดียวไดโนแฟลกเจลเลต Dinoflagellates หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าสาหร่ายซูแซนเทลลี Zooxanthellae และพวกมันอาศัยอยู่ในเนื้อเยื่อของปะการัง.

ไดโนแฟลกเจลเลตจะทำการสังเคราะห์แสง แต่แทนที่จะสังเคราะห์ด้วยแสงให้ตัวเอง พวกมันกลับปล่อยการสังเคราะห์แสงส่วนใหญ่นี้ เข้าไปในเนื้อเยื่อของปะการังแทน.

สิ่งนี้ทำให้ปะการังมีพลังงานเพียงพอที่จะก่อตัวและสร้างโครงสร้างที่แข็งแรงเป็นแคลเซียมคาร์บอเนตของพวกมันต่อไป.

การอยู่ร่วมกันแบบพึ่งพาอาศัยกันนี้ ยังทำให้ปะการังมีสีสัน และเมื่อปะการังเผาผลาญหรือทำการย่อยต่างๆ ของเสียที่ผลิตออกมาจากปะการังนั้น จะถูกนำไปรีไซเคิลเป็นสารอาหารให้ไดโนแฟลเจลเลตแทน.

Coral Reef Conservation Diver Koh Tao
Coral Reef Conservation Diver Koh Tao

ทำไมแนวปะการังจึงมีความสำคัญ?

แนวปะการังเปรียบเสมือนฝืนป่าในมหาสมุทร เพราะเป็นหนึ่งในระบบนิเวศที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดในโลก.

ในแนวปะการังเดียวกันอาจพบปะการังหลากหลายพันชนิดอาศัยรวมกัน และในมหาสมุทรรอบๆเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดในโลก รวมถึงปลาและปะการังอีกหลายพันชนิด.

นอกเหนือจากการเป็นหลักแหล่งที่อยู่อาศัยและที่พักพิงให้สัตว์ในทะเลทั้งหมดเกือบ 25% แนวปะการังยังช่วยขจัดไนโตรเจนและคาร์บอน และให้สารอาหารที่ดี ที่จำเป็นต่อระบบนิเวศและส่งผลทำให้ห่วงโซ่อาหารมีความอุดมสมบูรณ์.

แนวปะการังมีส่วนสำคัญทำให้มหาสมุทรอุดมสมบูรณ์

แนวปะการังเป็นตัวป้องกันที่สำคัญในการป้องกันชายฝั่ง พวกมันทำหน้าที่เป็นกำแพงกั้นคลื่นและเป็นแนวป้องกันพายุ.

แนวปะการังให้ความคุ้มครองต่อการตั้งถิ่นฐานตามแนวชายฝั่งที่สำคัญมาก รวมถึงพื้นที่อื่นๆ เช่น บริเวณป่าชายเลนและเป็นพื้นฐานให้หญ้าทะเลเพื่อใช้เป็นเรือนเพาะชำขนาดใหญ่สำหรับสัตว์ทะเล.

จากการคาดคะเน แนวปะการังทั่วโลกสร้างรายได้มากกว่า 375 พันล้านดอลลาร์ต่อปี โดยมีผู้คนมากกว่า 500 ล้านคนทั่วโลกที่ต้องพึ่งพาแนวปะการังในด้านทรัพยากรอาหารและการจ้างงาน.

แนวปะการังเปรียบเสมือนการเป็นตู้ยาแห่งศตวรรษที่ 21 โดยมีการวิจัยทางการแพทย์และยาประเภทใหม่ที่มุ่งเน้นไปที่สิ่งมีชีวิตในทะเล.

สารสกัดจากสัตว์และพืชในแนวปะการัง ถูกนำมาใช้ในการพัฒนายารักษาโรคมะเร็ง เอชไอวี โรคหัวใจ โรคข้ออักเสบ แผลและอื่น ๆ อีกมากมาย.

Soft Coral Koh Tao
Soft Coral Koh Tao

ปะการังฟอกขาวคืออะไร?

เมื่ออุณหภูมิของน้ำทะเลอุ่นเกินไป ปะการังจะขับสาหร่ายขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ภายในเนื้อเยื่อของพวกมันออกจากตัวมันเอง ซึ่งทำให้ปะการังเปลี่ยนเป็นสีขาว จึงเป็นคำว่า ‘ปะการังฟอกขาว’

และปัจจุบันนี้แหล่งพลังงานหลักที่สำคัญของปะการังได้สูญหายไป พวกมันจึงเกิดความเครียด เปราะบาง และอ่อนแอต่อโรคได้ง่ายขึ้น.

มีหลายตัวแปรที่กำหนดว่าปะการังชนิดใดฟอกขาว และชนิดใดมีความต้านทานมากกว่า.

เพราะปะการังแต่ละชนิดมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อแสง และความเครียดที่เกิดจากความร้อนต่างกัน ดังนั้น ระดับการฟอกสีของแต่ละประเภทจึงมีสีที่ต่างกัน.

สาเหตุที่ทำให้ปะการังฟอกขาว

การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ปะการังฟอกขาว

ภาวะโลกร้อน หมายถึง มหาสมุทรที่ร้อนขึ้น และการฟอกสีของปะการัง อาจเกิดขึ้นได้แม้อุณหภูมิของน้ำเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยแค่ 1°C องศาเซลเซียส ทำให้ปะการังเริ่มขับให้สาหร่ายออกไป.

Marine Conservation Awareness Specialty Courses Koh Tao
Marine Conservation Awareness Specialty Courses Koh Tao

ปะการังสามารถฟื้นตัวจากการฟอกขาวได้หรือไม่?

หากอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ปะการังที่ยังรอดชีวิตก็ยังสามารถกลับมาทำให้สาหร่ายรอบๆพวกมันงอกใหม่ได้ และหากในบริเวณนั้นมีปะการังที่ยังแข็งแรงอยู่ พวกมันก็จะสามารถช่วยเติมพื้นที่ ขยายจำนวนประชากรในบริเวณที่ได้รับผลกระทบได้เช่นอีกเช่นเดียวกัน.

แต่อย่างไรก็ตาม หากเกิดการฟอกขาวครั้งใหญ่หรืออาจมีผลกระทบอื่นๆเพิ่มมาอีก เช่น การเป็นกรดในมหาสมุทร หรือมลภาวะในทะเล ทำให้ปะการังส่วนใหญ่อาจตายได้และการฟื้นตัวอาจใช้เวลานานหลายปี.

ส่วนปัจจัยอื่นๆ ที่เป็นกำหนดว่าปะการังจะสามารถฟื้นตัวหลังจากเกิดการฟอกขาวได้หรือไม่ ได้แก่ ความแตกต่างของสภาพอากาศ กระแสน้ำในมหาสมุทร ความใกล้ชิดแหล่งน้ำที่เย็นกว่า ผลกระทบจากการกระทำของมนุษย์ในท้องถิ่น และอุณหภูมิของน้ำทะเล.

ปะการังฟอกขาว

มีการบันทึกเกี่ยวกับอัตราการฟื้นตัวและความเร็วในการฟื้นตัวของปะการังทั้งในสายพันธุ์เดียวกันและต่างสายพันธุ์ โดยแต่ละประเภทนั้นมีอัตราการฟื้นตัวที่แตกต่างกัน.

มีหลายพื้นที่ที่แสดงให้เห็นว่า การฟอกขาวของปะการังชนิดเดียวกันมีปฏิกิริยาตรงกันข้ามกับการฟอกสีในสถานที่ที่แตกต่างกัน.

การเป็นกรดในมหาสมุทร ที่เกิดจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการเพิ่มขึ้นของ CO2 ในมหาสมุทรยังส่งผลต่อการฟอกขาวของปะการัง ทำให้ปะการังหลั่งแคลเซียมคาร์บอเนตเพื่อสร้างและซ่อมแซมโครงกระดูกและฐานของมันได้น้อยลง.

Marine Conservation Internships Koh Tao
Marine Conservation Internships Koh Tao

แนวปะการังรอบเกาะเต่าได้รับผลกระทบจากการฟอกขาวอย่างไร?

มีเหตุการณ์ปะการังฟอกขาวที่สำคัญสี่ครั้งบนเกาะเต่าในปี 2541, 2553, 2557 และ 2559.

การฟอกขาวทั้งหมดล้วนมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสุขภาพของปะการัง ความอุดมสมบูรณ์ของปะการัง และการปกคลุมแนวปะการังรอบเกาะเต่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฟอกขาวในปี 2541 และ 2553 ซึ่งกินเวลานาน 5 เดือน ทำให้เกิดการฟอกขาวครั้งใหญ่อย่างไม่เคยมีมาก่อน.

พบปะการังที่ตายแล้วเป็นจำนวนมากในบริเวณอ่าวตื้นๆ รอบเกาะเต่า.

การเจริญเติบโตและการพัฒนาของปะการังรอบเกาะเต่าในช่วง 20 ปีที่ผ่านมานี้ เห็นได้ชัดว่า จากเหตุการณ์การฟอกขาวในครั้งนั้น ทำให้พวกมันเกิดความเครียดและต้องดิ้นรนเพื่อฟื้นฟูตัวเอง.

การฟื้นตัวของปะการังบนเกาะเต่า

ในบางกรณี ปะการังอาจเกิดสัญญาณของโรคและมีความแนวโน้มที่จะตาย.

หลังจากเหตุการณ์ฟอกขาวในปี 2541 มีการบันทึกว่า แนวปะการังรอบเกาะเต่าเสียหายและสูญเสียพื้นที่ปะการังไปประมาณ 17% ในเวลาเพียง 5 ปี.

อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับแนวปะการังอื่นๆ ในประเทศไทย อัตราการฟื้นตัวของปะการังรอบเกาะเต่ามีสูงกว่าที่อื่น.

ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจแนวปะการังแสดงให้เห็นว่า เกิดการแพร่กระจายของปะการังเพิ่มขึ้นอีก (ในปีพ.ศ. 2549-2557) โดยสังเกตว่าแนวปะการังรอบเกาะเต่าเกิดการขยายพันธุ์สูงสุด และเกิดความหลากหลายทางชีวภาพมากขึ้นในอ่าวไทย. 

Lighthouse Bay Dive Site Koh Tao - Corals
Lighthouse Bay Dive Site Koh Tao – Corals

มีส่วนร่วมในการสำรวจ Coral Watch Coral Health

หนึ่งวิธีที่เราสามารถช่วยปะการังได้ คือช่วยตรวจสอบและเฝ้าดูเหตุการณ์การฟอกขาวของปะการัง ซึ่งก็คือ การสำรวจสุขภาพของปะการังนั่นเอง และในฐานะนักดำน้ำที่เกาะเต่า เราอยู่ในตำแหน่งที่สามารถมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือเหล่าปะการังได้.

Black Turtle Dive ทำการสำรวจ Coral Watch ในท้องถิ่น ซึ่งเป็นวิธีที่เรียบง่ายในการประเมินและไม่รุกรานสุขภาพของปะการัง และวิธีการตรวจสอบการฟอกสีของปะการัง พัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์.

โครงการวิทยาศาสตร์พลเมืองที่เรียบง่ายนี้ ช่วยให้ผู้คนเข้าใจปัญหาและสุขภาพของแนวปะการังได้มากขึ้น รู้ว่าปะการังฟอกขาวคืออะไร และเหตุใดจึงเกิดขึ้น.

และวิธีการใช้ตารางสำรวจ Coral Health Chart นี้สามารถทำได้ทั้ง นักดำน้ำตื้นหรือนักดำน้ำลึกทุกคน เพื่อช่วยกันตรวจสอบสุขภาพของแนวปะการังได้ทุกที่ในโลก.

การใช้แอพพลิเคชั่น Coral Watch หรือเข้าโดยตรงผ่านเว็บไซต์ นักดำน้ำลึกและนักดำน้ำตื้นสามารถอัปโหลดผลที่ได้จากการสำรวจไปยังฐานข้อมูลส่วนกลาง ซึ่งช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ติดตามแนวโน้มของปะการังทั่วโลกได้.

Coral Watch Health Chart Course Koh Tao
Coral Watch Health Chart Course Koh Tao

เราจะแก้ปัญหาปะการังฟอกขาวได้อย่างไร?

ปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแก้ไข แต่เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความร่วมมือและความมุ่งมันเดียวกันระหว่างประเทศและโลกของเราต้องลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์.

การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มนุษยชาติกำลังเผชิญ และเป็นภัยคุกคามอย่างใหญ่หลวงต่อระบบนิเวศของแนวปะการัง ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาสมดุลและสุขภาพของโลก.

ปะการังที่อาศัยอยู่บนแนวปะการังนั้น มีข้อจำกัดเรื่องการทนต่อความร้อน แม้แต่การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิเพียงเล็กน้อยก็นำไปสู่การฟอกขาวของปะการังได้ และสิ่งที่แย่กว่านั้นคือ การตายของปะการัง.

การปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นการเพิ่มความเป็นกรดของมหาสมุทร แนวปะการังของเราจึงได้รับบททดสอบการต้านทานอันโหดร้ายนี้.

การแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเป็นวิธีแก้ปัญหาระยะยาวเพียงอย่างเดียว เพื่อช่วยปกป้องแนวปะการังของเราไม่ให้เกิดการฟอกขาว.

Great Dive Sites for Beginners Koh Tao
Great Dive Sites for Beginners Koh Tao

วิธีการลดก๊าซคาร์บอน

คุณสามารถทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ได้ด้วยการเดิน ปั่นจักรยาน หรือใช้ระบบขนส่งสาธารณะเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์.

การอนุรักษ์และประหยัดน้ำก็ช่วยลดก๊าซคาร์บอนได้เช่นกัน เพราะการสูบน้ำ การต้มน้ำ และการบำบัดน้ำนั้นใช้พลังงานเป็นจำนวนมาก.

การอาบน้ำให้สั้นลง ปิดก๊อกน้ำเมื่อแปรงฟัน ติดตั้งอุปกรณ์ที่ใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดการใช้ไฟฟ้าในบ้านให้น้อยลง เหล่านี้ถือเป็นการช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้.

หลีกเลี่ยงการใช้สารกำจัดศัตรูพืชในสวนของคุณ ทำปุ๋ยหมักและลดการใช้พลาสติกและขยะอื่นๆ เรียนรู้วิธีการรีไซเคิลให้มากขึ้นและเลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง.

การจับปลามากเกินกว่าจำนวนที่ประขากรต้องการส่งผลเสียต่อแนวปะการัง และการเลือกซื้อหรือรับประทานปลาและอาหารทะเลอย่างมีข้อมูลเพียงพอ จะช่วยให้มหาสมุทรของเรามีสุขภาพที่ดี.

CoralWatch Coral Heath Chart Specialty Course Koh Tao
CoralWatch Coral Heath Chart Specialty Course Koh Tao

ช่วยกันดูแลรักษาท้องทะเลของเราให้อุดมสมบูรณ์

การลดการบริโภคเนื้อสัตว์และการเปลี่ยนไปรับประทานอาหารที่เน้นพืชเป็นหลัก จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้เช่นเดียวกัน.

ความพยายามเล็กๆน้อยๆ เหล่านี้เมื่อรวมกันแล้ว สามารถสร้างความแตกต่างได้ อย่างไรก็ตาม ความพยายามเหล่านี้เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของการแก้ปัญหาในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการเสื่อมถอยของแนวปะการังที่มีจำนวนลดลง.

ในฐานะมนุษย์ เราต้องเลิกพึ่งพาการใช้น้ำมัน.

น้ำมันหล่อลื่นเป็นเศรษฐกิจของโลก น้ำมันอยู่ในแทบทุกอย่างที่เราใช้ตั้งแต่พลาสติกไปจนถึงเสื้อผ้าที่เราสวมใส่และผงซักฟอกที่เราทำความสะอาด นอกจากนี้ยังเป็นพื้นฐานในการขนส่งสินค้าและผู้คนอีกด้วย.

เราจำเป็นต้องเปลี่ยนการใช้เป็นพลังงานทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น พลาสติกที่ได้จากพืช พลังงานลมและคลื่น พลังงานแสงอาทิตย์ และรถยนต์ไฟฟ้าแทน.

Lighthouse Bay Dive Site Koh Tao - Marine Life
Lighthouse Bay Dive Site Koh Tao – Marine Life

เข้าร่วมและเป็นส่วนหนึ่งในโครงการอนุรักษ์

เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น เข้าร่วมโครงการอนุรักษ์ และลงคะแนนเสียงให้กับตัวแทนทางการเมืองที่มุ่งมั่นในการดำเนินการเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ.

ตัวแทนของเรานั้นจำเป็นต้องใช้หลักฐานที่ได้จากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เพื่อช่วยลดการปล่อยมลพิษทางเศษรฐกิจให้มีปริมาณต่ำลง.

เราทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการทำให้มหาสมุทรและโลกของเราน่าอยู่ขึ้นได้ โดยการเปลี่ยนนิสัยประจำวันของเรา และหันมาใส่ใจ เลือกใช้สิ่งที่ยั่งยืนให้มากขึ้น.

Subscribe
Notify of

0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments